ขนมฝอยทอง

ฝอยทองแพร่เข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับทองหยิบและทองหยอด ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา (ท้าวทองกีบม้า, พ.ศ. 2202-2265) ลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ภริยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ท้าวทองกีบม้ามีหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องเครื่องต้น เป็นผู้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตจากฝรั่งเศสที่มาเยือนกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น
ทั้งนี้ฝอยทอง ปรากฏอยู่ใน กาพย์เห่ชมเครื่องคาว-หวาน บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่พระราชนิพนธ์ชมเชยฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวยของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี 
ฝอยทอง (โปรตุเกสfios de ovosฟีอุชดือโอวุช, "เส้นด้ายที่ทำจากไข่")[1] เป็นขนมโปรตุเกส ลักษณะเป็นเส้นฝอยสีทอง ทำจากไข่แดงของไข่เป็ด เคี่ยวในน้ำเดือดและน้ำตาลทราย ชาวโปรตุเกสใช้รับประทานกับขนมปัง กับอาหารมื้อหลักจำพวกเนื้อสัตว์ และใช้รับประทานกับขนมเค้ก[2] โดยมีกำเนิดจากเมืองอาไวรู (Aveiro) เมืองชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปรตุเกส
ฝอยทองเป็นที่รู้จักในประเทศสเปนว่า อูเอโบอิลาโด (สเปนhuevo hilado "ไข่ที่ปั่นเป็นเส้นด้าย"), ญี่ปุ่นว่า เครังโซเม็ง (ญี่ปุ่น鶏卵素麺 "เส้นไข่ไก่")[3], กัมพูชาว่า วาวี[4] และมาเลเซียว่า จาลามัซ (มลายูjala mas "ตาข่ายทอง")
ฝอยทอง
ฝอยทองเป็นขนมโบราณชั้นดีชนิดหนึ่งที่ท่าน ผู้หญิงวิชเยนทร์เป็นผู้นำในการเผยแพร่สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นขนมที่ได้รับความ นิยมมาใช้เป็นขนมในงานมงคลต่างๆเนื่องจากมีชื่อ เป็นมงคลที่ขึ้นต้นด้วยทองซึ่งถือเคล็ดว่าทำให้ร่ำรวย และนอกจากนั้นคนไทยเรายังถือเคล็ดตามลักษณะ ขนมคือมักจะใช้ขนมที่มีลักษณะเป็นเส้นยาว
ซึ่งหมายถึงความยืนยาวของชีวิตฝรั่งจึงเรียกว่า “Goldenhair”และเมื่อนำมาใช้ในพิธีจะไม่ตัด
ความหมาย
เป็น ขนม ใน ตระกูลทอง ที่มีลักษณะเป็น เส้น นิยมใช้กันในง านมงคลสมรส ถือเคล็ด กันว่าห้ามตัดขนม ให้สั้น
ต้องปล่อยให้เป็น เส้นยาวๆ เพื่อ
ที่ คู่บ่าวสาว จะได้ ครองชีวิตคู่ และ รัก กันได้อย่างยืนยาวตลอดไป
ส่วนผสม
ส่วนผสม
ไข่แดง (ไข่เป็ด) 30 ฟอง
ไขน้ำค้าง 5 ช้อนชา
น้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย 10 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง
วิธีทำ 
น้ำเชื่อม
1. ผสมน้ำตาลทรายและเปลือกไข่ที่ล้างสะอาด เติมน้ำเปล่าและ
ใบเตย ตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย เปิดไฟปานกลาง
2. เมื่อเดือด ช้อนฟองออก กรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไว้บนเตา
เปิดไฟอ่อน

การผสมไข่
1. ต่อยไข่ที่ล้างเปลือกสะอาดแล้ว แยกไข่แดงใส่ผ้าขาวบางและ
แยกน้ำค้างไข่ออกต่างหาก (ส่วนที่เป็นไข่ขาวใส)
2. ตวงน้ำค้างไข่ผสมกับไข่แดงที่แยกไว้ กรองด้วยผ้าขาวบาง
คนพอเข้ากัน

การโรย
1. เทไข่ที่ผสมแล้วใส่กรวยโรยลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือด โรย
วนรอบกระทะทอง ครั้งละ 1 กรวย เมื่อไข่สุกเติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย
2. เบาไฟให้เดือดปุด ๆ ใช้ไม้ปลายแหลมช้อนขึ้นส่ายในน้ำเชื่อม
ให้เป็นแพเรียบ แล้ววางพับบนตะแกรง โดยทำให้เป็นแพสี่เหลี่ยม
ขนาดตามความต้องการ ทำลักษณะเช่นนี้จนหมดไข่
 เคล็ดลับ**

1.ถ้าเส้นฝอยทองแบนเป็นเพราะ 
   -น้ำเชื่อมเดือดพล่านมาก
   -น้ำเชื่อมใสไป
2.เส้นใหญ่ เป็นเพราะรูกรวยใหญ่
3.เส้นขาดเพราะคนมากไป ส่วนผสมเหลวมีน้ำอยู่
4.ถ้าไข่อกจากรุกรวยไม่สม่ำเสมอ แสดงว่าตอนแยกไข่ขาวติดอยู่ รีดไม่ดี ให้รีดอีกครั้ง
5.เส้นกระด้างแข็งเป็นเพราะน้ำเชื่อมข้นมากไป
6.ถ้าใช้ไข่เป็ดจะเห็นเส้นกลมกว่าไข่ไก่
7.ถ้าจะให้ลักษณะสวยควรผสมไข่เป็ดกับไข่ไก่รวมกัน
8.ขณะโรยเมื่อจะพักกรวยไม่ควรใช้มือปิดรูกรวยจะทำให้ไข่แห้งแข็งเกาะที่รูทำให้รูตัน 
ควรหาไม้ 2 อันวางพาดบนภาชนะที่ใส่ไข่ วางกรวยตรงกลางระหว่างไม้
9.ฝอยทองนอกจากทำเป็นแพแล้ว อาจจะทำรูปต่างๆได้ เช่น รังนก ถักเปีย ทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ   แล้วแต่จะจัดในโอกาสใด

ความคิดเห็น